หนัง the fast 10 We Have a Ghost บ้านนี้มีผีปั่นป่วน หากว่าคุณเติบโตมาพร้อมกับหนังผีเฮฮาสวยๆแบบ The Haunted Mansion หรือ Casper ก็คงจะจูนชิดกับหนังประเด็นนี้ “We Have a Ghost บ้านนี้มีผีปั่นป่วน” หนังที่มีกลิ่นความวุ่นวายเชื้อเชิญยุ่งของผีประจำบ้าน ถึงแม้ว่าในฉบับนี้จะมิได้ออกมาน่ารักน่าเอ็นดูน่าหยิก แม้กระนั้นพล็อตในทำนองคนกับผีร่วมมือกัน ยังเป็นสูตรสำเร็จที่ยังคงขายได้นิรันดร และก็ดูท่าหัวข้อนี้..คงจะออกมาเวิร์กแบบเดียวกัน
We Have a Ghost บ้านนี้มีผีป่วนปั่น เกี่ยวกับเรื่องราวของครอบครัวเพรสลีย์ที่มองหาการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเมืองชิคาโก พวกเขาย้ายเข้าไปอยู่บ้านเก่าที่เต็มไปด้วยฝุ่นจับ แต่ว่าเร็วนี้ๆทุกคนก็ใส่ใจได้ว่ามีอะไรบางอย่างซุกซ่อนอยู่ในบ้านข้างหลังนี้ มันก็คือ เอ้อร์เนสต์ ผีในห้องใต้หลังคา ที่อุตสาหะทำให้สมาชิกในบ้านกลัว แต่ว่าเนื่องจากว่าจิตวิญญาณที่เข้ากันได้อย่างน่าแปลก ทำให้ เควิน กับ เอ้อร์เนสต์ ผูกพันกันอย่างเร็ว แล้วก็ทราบดีว่าผีที่สิงอยู่ในบ้านข้างหลังนี้อยากให้ช่วยเหลือบางสิ่ง
หนัง the fast 10 หนังเต็มเรื่อง HD
ขณะที่ แฟรงค์ เสาหลักของบ้านที่สุภาพเรียบร้อยอ่อนน้อม ชีวิตของเขาแปลงเมื่อมีผีประจำบ้านเข้ามาเกี่ยวพัน ภายหลังที่คลิปคนกับผีถูกแชร์เป็นไวรัลไปทั่วเครือข่ายสังคม ทำให้คนทั้งโลกต่างจ้องไปยังที่บ้านของเครือญาติเพรสลีย์ รวมทั้งยังกลายเป็นเป้าของ ดร.เลสลี่ มอนโร นักวิทย์ฯ ที่เพียรพยายามพิสูจน์เรื่องผี และอีกหลายคนที่มีส่วนเชื่อมโยงเกี่ยวกับอดีตกาลของผีเอ้อร์เนสต์ ทำให้บ้านที่น่าจะอบอุ่นข้างหลังนี้..เต็มไปด้วยโกลาหลแม้ว่ามันจะเป็นหนังที่เต็มไปด้วยพล็อตสูตรสำเร็จแบบเดิมๆที่เสมือนจะต่าง
แต่ว่าก็ไม่มีอะไรที่แตกต่างกันหวือหวาอะไรขนาดนั้น “คริสโตเฟอร์ แลงดเว้นอน” จากหนังชุด Happy Death Day ทั้งยัง 2 ภาค มารับหน้าที่ดูแลงานสร้างภาพยนตร์หัวข้อนี้ และยังคิดเขียนบทหนังด้วย เป็นบางครั้งอาจจะกล่าวว่าเขาออกจะเพลย์เซฟไปสักนิดสักหน่อย เนื่องจากหลายๆส่วนประกอบของหนังหัวข้อนี้แทบไม่ออกนอกกรอบสักเท่าไหร่
ความจริงคอนเซ็ปต์ใน We Have a Ghost ออกจะน่าดึงดูด หากว่าส่วนประกอบต่างๆ ดูหนังfast10 ของหนังจะไม่ได้มีความแตกต่างจากหนังแนวๆที่พวกเราเคยมองกันมาในตอน 2-3 ทศวรรษก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา แม้กระนั้นด้วยเทคโนโลยีงานสร้างที่ปรับปรุงขึ้นไปไกล ทำให้ผีเปลี่ยนเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดกับคนได้อย่างกลมกลืน หนังประเด็นนี้มีแกนเรื่องที่ผสมปนเปในหลายๆแนว อีกทั้งผี ทั้งยังตลกขบขัน อีกทั้งครอบครัว หนังน่าแปลก รวมๆกันแล้วมันก็เลยออกมาเป็นหนังที่ทำออกมาได้เพียงแค่ปกติ หาลักษณะเด่นที่แจ้งชัดไม่ค่อยข้างมี
จะต้องยอมรับสารภาพอย่างไม่อ้อมค้อมเลยว่า ขณะ 30 นาทีแรกของ We Have a Ghost เป็นจุดที่น่าสนใจใจมากที่สุดของหนังแล้ว เป็นการปูเรื่องแล้วก็เกริ่นนำที่ชวนผู้ชมได้อย่างดีเยี่ยม บางครั้งอาจจะเป็นเนื่องจากว่าเป็นจุด First Impressions สร้างความผูกผันระหว่างผู้แสดงกับผู้ชม แต่ว่าเพียงพอเลยต่อจากนั้นเป็นต้นมาแล้ว หนังก็ออกจะเลื่อนลอยรวมทั้งค่อยข้างเลอะออกสมุทรไปสักนิดสักหน่อย
ความกระชับของหนังประเด็นนี้ก็ถือได้ว่าส่วนที่ทำเป็นไม่ดีเยอะแค่ไหน เนื่องจากหนังมีความยาวมากยิ่งกว่า 2 ชั่วโมง แบบที่คิดว่าเกินจำเป็นไปหน่อย Wa Are a Ghost ควรรวบรัดแล้วก็เพิ่มความกระชับในรายละเอียดแล้วก็กรรมวิธีการเล่าให้ว่องไวเพิ่มขึ้นกว่านี้ คาดว่าหนังคงจะมีรสชาติที่อร่อยขึ้นกว่า เปลี่ยนเป็นว่าหนังเต็มไปด้วยน้ำเป็นองค์ประกอบของรายการอาหาร หาชิ้นเนื้อให้เคี้ยวได้อยู่ แต่ว่าในจำนวนที่ยังไม่สมดุลกันสักเท่าไหร่
Die Hart: The Movie
จากที่เคยทำออกมาเป็นซีรีส์ออกฉายไปเมื่อแทบ 3 ปีกลาย เขาก็กลับมาอีกทีในแบบเดอะมูฟวี่ อย่าง “Die Hart: The Movie” หนังบู๊ตลกขบขันสายเจ็บตัวและก็ตะเบ็งแนวถนัดของศิลปินสุดฮา “เควิน ฮาร์ท” ที่อาจพูดได้ว่าเป็นฉบับเปลี่ยนแปลงจากเดิม ต่อเติมเพิ่มอรรถรสเข้าไปอย่างเต็มเปี่ยม แต่ว่าคำตอบที่ออกมาจะยังเวิร์กอยู่ไหม…จะต้องมาพิสูจน์
Die Hart: The Movie ถือเป็นการแตกหน่อออกมาจากฉบับซีรีส์ ที่จะพาตามติดไปดูชีวิตในเวอร์ชั่นมายาคติของ เควิน ฮาร์ท ตอนที่เขากำลังอุตสาหะจะเป็นนักแสดงแอคชั่น เขาได้เข้าชั้นเรียนที่สถานที่เรียนการแสดง โดยที่ได้ รอน วิลค็อกซ์ มารับหน้าที่เป็นอาจารย์ผู้สอน เขาตั้งมั่นศึกษาแล้วก็หาวิธีที่จะเป็นแอคชั่นสตาร์เบอร์ต้นๆที่แวดวงสำราญใจอยากตัวสูงที่สุด
แล้วก็นี่เป็นการนำเอาต้นฉบับเวอร์ชั่นซีรีส์มาหล่อรวมดัดแปลงแก้ไขขึ้นมาใหม่ ออกมาเป็นฉบับหนังยาวเรื่องหนึ่ง ที่พูดจากใจจริงก็ไม่เคยรู้แบบเดียวกันว่าจะทำแบบงี้ออกมาเพราะเหตุไร เพราะเหตุว่าเวอร์ชั่นชื่อเดียวกันที่ฉายออกไปแล้ว 10 ตอน ในตอนวัววิด-19 กำลังระเบิดหนัก ทำให้ตัวซีรีส์ไม่ค่อยจะปังสักเท่าไหร่ นี่บางครั้งอาจจะเป็นอีกมูลเหตุที่พวก
เขาตกลงใจทำแยกอีกฉบับเป็นหนังด้วยDie Hart: The Movie ได้ “อีริค แอปเพล” ผู้กำกับจากซีรีส์ดัง Brooklyn Nine-Nine มารับช่วงต่อ โดยเครดิตบทหนังยังชูให้กับ “ดีเร็ค วัวลสตาด” จากหนัง John Wick ทุกภาค กับ “ทริปเปอร์ แคลุกลนซีย์” (จาก Stuber) ที่ผนึกความสามารถกันเขียนบทออกมาให้ เป็นจะพูดว่าเป็นการทำหนังใหม่ก็อาจไม่เชิง เนื่องจากคงจะเรียกว่านำมาผสมโรงแล้วก็ตัดต่อใหม่ให้กลมกล่อมละมุนละไมเป็นหนังมากยิ่งกว่า
แล้วก็คำตอบที่ออกมานั้น น่าจะจำเป็นต้องนิยามให้เลยว่า “เลอะเทอะ” แม้กระทั่งไม่เคยมองฉบับซีรีส์มาก่อน แต่ว่าเชื่อไหมว่าแค่นั่งดูเวอร์ชั่นหนังเพียงแค่ 80 กว่านาคราว ก็เรียกได้ทรมาทรกรรมมากมายจริงๆน่าจะเป็นแฟนเดนถางของ เควิน ฮาร์ท ถึงจะต้องใจในผลงานหนังชิ้นนี้ เนื่องจากทุกๆอย่างแทบจะไม่มีอะไรที่น่าอภิรมย์จิตใจเลยสักหน่อย ทุกซีนเป็นการประดิษฐ์ประดอย บวกกับอุตสาหะทำให้ออกมาขบขันแทบทั้งนั้น
สารภาพตรงๆกับคุณคนอ่านเลยว่า นักเขียนไม่ค่อยจะมีสมาธิ หนัง the fast 10 แล้วก็หลุดจุดโฟกัสบ่อยมากกับหนังประเด็นนี้จริงๆเรียกว่าเพียงแค่เปิดหนังประเด็นนี้มองไปแบบพลางๆก็ยังคิดว่าหนังปราศจากความบันเทิงใจเลย มันเต็มไปด้วยจังหวะขำขันเดิมๆสไตล์ตะโกนและก็เจ็บตัวของเควิน ฮาร์ท ที่เดี๋ยวนี้มันไม่ใช่มุกที่สดใหม่รวมทั้งมีเสน่ห์ราวกับเมื่อครั้งที่เขาพึ่งจะเล่นในหนังดังประเด็นต่างๆในตอนทศวรรษก่อนอีกต่อไป
ถึงหนังประเด็นนี้จะได้โอกาสมนักแสดงระดับตัวเป้งๆมาร่วมสมทบ ไม่ว่าจะเป็น “จอห์น ทราโอ้อวดตร้า”, “ที่นาตาลี เอ็มมานูเอล”, “หน้าจอช ฮาร์ตเน็ตต์” หรือ “ฌ็อง เรโน” แต่ว่าพวกเขาไม่สามารถที่จะฝ่าด่านพระอรหันต์ของบทหนังที่แสนทรามไปได้เลย ทำให้การแสดงของพวกเขาค่อนข้างจะทรุดโทรม เนื่องจากว่าบทไม่สามารถที่จะส่งถึงได้เลย ซ้ำยังได้โอกาสติดโผเข้าชิงรางวัลราซซี่ อวอร์ดส์ ได้คนจำนวนไม่น้อยทีเดียว
ขุนพันธ์ 3
คงจะเปลี่ยนเป็นหนึ่งในเฟรนไชส์หนังแอคชั่นสายเวทย์ในปัจจุบันที่เรืองรองมากมายๆอีกชุดหนึ่งไปแล้ว และก็นี่เป็นการกลับมาเพื่อกระทำการปิดตรีภาคอย่างสมบูรณ์แบบใน “ขุนพันธ์ 3” ที่เป็นการเติมเต็มองค์ประกอบต่างๆของจักรวาลที่นี้ในแกร่งเพิ่มขึ้น แล้วก็ทรงอำนาจมากกว่า บอกได้เลยว่าภาคนี้จัดเต็มแล้วก็จัดหนักมากกว่าภาคไหนๆที่ผู้ชมเคยจัดการมาเลย
ขุนพันธ์ 3 ในภาคนี้ได้เล่าราวในปี พุทธศักราช2493 ชาติบ้านเมืองได้รับผลพวงจากการทำศึก ชุมมิจฉาชีพเสือร้ายยังคงชุมไปทั่วทุกหนทุกแห่ง ขุนพันธ์ นายตำรวจมือปราบผู้ถือมั่นในความถูกต้องแน่ใจก็เลยถูกเรียกกลับมาปฏิบัติหน้าที่ล่าตัว 2 เสือร้ายคาถาอาคมกล้าที่กำลังฮึกเหิมและก็ท้าอำนาจเมือง โดยที่ไม่เคยมีคนใดเข้าถึงตัวได้ นำมาซึ่งการหวนเหยียบถิ่นเสืออีกรอบของขุนพันธ์ ท่ามกลางเหล่าเสือร้ายเป้าหมายสังหาร รวมทั้งพร้อมตัดสินคดีมือปราบคงกระพันชาตรีด้วยความตาย
การจับตาย 2 เสือโด่งดังอย่าง เสือมเหศวรรวมทั้งเสือดำ คราวนี้บางทีอาจไม่เสมือนเมื่อใดก็ตามผ่านมา ขุนพันธ์จะสามารถบรรลุภารกิจท้าเชื่อถือ และก็ประจันหน้าเหล่าเสือร้ายที่มีอีกทั้งคาถารวมทั้ง ความหนังเหนียวได้ไหม….หรือถึงเวลาแล้วที่คราวนี้ มือปราบหนังเหนียวอย่างขุนพันธ์จะแปลงเป็น “ผู้ถูกตามล่า” เสียเองจำเป็นต้องบอกเลยว่าผู้กำกับ “โขม ก้องเกียรติยศ”
จัดให้เอาจริงเอาจังกับภาคนี้จริงๆเขาได้ใส่ของแล้วก็ใส่ท่าทางต่างๆเข้ามาในทุกอณูของหนังประเด็นนี้ บนรากฐานของแฟนเซอร์วิส ที่ดังว่าเขาทำการบ้านมาแล้วว่าแฟนหนังชุดนี้อยากมองอะไรรวมทั้งต้องการจะมองเห็นอะไรที่อยู่ในหนังประเด็นนี้ แล้วก็โน่นยิ่งทำให้แฟนคลับจะได้ประทับใจรวมทั้งฟินไปกับภาคที่ 3 ของหนังที่ยิ่งใหญ่แล้วก็เต็มกำลังกว่าที่เคยสัมผัสมา
“ขุนพันธ์ 3” มีฉากเครดิตด้านหลังเรื่องหรือเปล่า หนัง the fast 10 แล้วทิ้งปัญหาอะไรเอาไว้หรือไม่ ขุนพันธ์ 3 น่าจะเป็นการชูระเบิดความย่อยยับสันตโรของฉากแอคชั่นต่างๆมากขึ้นเป็น 3 เท่าเลยก็ได้ว่า เพราะเหตุว่าหนังประเด็นนี้ใส่ฉากบู๊สนุกๆเด็ดๆเอาไว้ให้ผู้ชมได้หนำใจกันแบบคุ้มตั๋วหนัง แม้ว่าจะใช่การบู๊ระดับชีพจรไม่เต้นหายคอเลย แต่ว่าทุกตอนทุกจังหวะที่ใส่ฉากกลุ่มนี้เข้ามานั้น จัดว่าทำออกมาได้กำลังกลมกล่อมละมุนละไม ไม่รู้จักสึกว่ามากมายไปหรือน้อยไปอะไร
แม้กระนั้นแน่ๆปัญหาสำคัญๆของหนังก็ยังคงเป็นข้อบกพร่องเดิมๆของภาพยนตร์ไทยเกือบจะทุกเรื่อง idpokerlink มันก็คือบทหนังนั่นเอง โขม ก้องเกียรติยศ ก็ยังมารับหน้าที่เขียนบทหนังภาคนี้อีกรอบเหมือนปกติ รวมทั้งเนื่องจากว่างานสร้างภาคนี้สเกลออกจะใหญ่ขึ้น ผู้แสดงมากเพิ่มขึ้น รวมทั้งเส้นเรื่องก็หนาแน่นขึ้น โชคร้ายที่บทหนังและก็ท่วงทีการเล่าเรื่องของหนังยังไม่ถึงขนาดราบรื่น แม้ว่าจะแอบแทรกสอดหัวข้อเสียดสีสังคมปัจจุบันนี้ได้อย่างแสบสันต์มาห่างๆก็ตาม
บทหนังที่เสมือนจะสะดุดโคนอยู่เสมอๆกับขาดความกระชับสำหรับในการเดินเรื่องไปนั้น ทำให้มีบางจุดที่ยังมองเห็นได้ถึงความขาดๆเกินๆของหนังอยู่ จังหวะการเล่าเรื่องบางจุดก็ไม่ค่อยข้างเชื่อมต่อกันอย่างลื่นไหล มีบางจังหวะที่กระโดดไปกระโดดมา ถึงกระนั้นโดยรวมในส่วนประกอบส่วนนี้ก็ยังไม่ถึงกับขนาดทรามรวมทั้งทำลายบรรยากาศของหนัง เพียงว่าหนังคงจะกระชับได้มากขึ้นกว่านี้ได้อยู่ ลากยาวมาเป็นหนัง 2 ชั่วโมงครึ่ง ที่รายละเอียดมิได้สลับซับซ้อนอะไรเท่าไรนัก แปลงเป็นจุดเล็กๆที่เกินจำเป็นไปสักนิด
CREED III (ครี้ด 3)
กลับมาอีกทีในการชิงบัลลังก์สังเวียนที่เกียรติ กีฬามวย กับหนัง CREED III (ครี้ด 3) กับความร้อนแรงแผดเผาให้พวกเราได้ตื่นเต้น แล้วก็ลุ้นไปกับการขึ้นสู่เวทีเพื่อก้าวถึงคำว่า แชมป์ อย่างไม่ท้อถอย แม้จะไม่เคยรับดูภาคก่อนหน้า แต่ว่าก็สามารถรู้เรื่องในรายละเอียดที่สื่อออกมาได้ในทันทีทันใด กับการดู CREED III ในภาคนี้ และไม่ได้มีเพียงเรื่องราวบนสังเวียน แม้กระนั้นยังเปลี่ยนแปลงผ่านอารมณ์มาเล่าครอบครัวคล้องจองกันไปอีกด้วย
CREED III เกิดเรื่องราวชีวีว่ากล่าวของ อโดนิส ครี้ด (สวมบทบาทโดย ไมเคิล บี. จอร์แดน) เขาได้ครองแชมป์ รวมทั้งเป็นเบอร์แรกของแวดวงมวย พร้อมไปด้วยความก้าวหน้าในอาชีพงานการ แล้วก็ชีวิตครอบครัวของเอา จนกระทั่งเพื่อนฝูงยุคเด็กรวมทั้งยังเป็นอดีตนักมวยฝีมือยอดเยี่ยม อย่าง เดภรรยาน อันเดอร์สัน (สวมบทบาทโดย โจนาธาน เมเจอร์ส) กลับเข้ามาให้ชีวิตของเขาอีกรอบ การเผชิญหน้ากับระหว่างเพื่อนเก่าในคราวนี้ ก็เลยเป็นมากกว่าการต่อสู้เมื่อไหร่ๆ
เริ่มมาด้วยวัยเด็กของ 2 ผู้แสดงหลัก อย่าง อโดนิส และก็ เดภรรยาน มาผูกปมความสนิทไว้ตั้งแต่เริ่ม ก่อนไปสู่เรื่องราวหลักในตอนนี้แบบสบายๆมีฉากน่ารักน่าเอ็นดูให้ได้พักหัวใจก่อนที่จะไปสู่ความเข้มข้น เมื่อเขาทั้งคู่คนได้เจอกันอีกที และก็เดภรรยาน กลับมาเพื่อไปสู่สังเวียนการชกมวย ทวงตำแหน่งแชมป์ที่เขารอคอยมาเป็นระยะเวลานาน พร้อมไปกับเงื่อนในอดีตกาลที่คืบคลานเข้ามาใกล้ตัวเขาเยอะขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยทำให้บัลลังก์ในคราวนี้ อโดนิส จะต้องกลับลงมาทวงคืนเกียรติของนักมวยมืออาชีพอีกรอบ
นอกเหนือจากการเอ๋ยถึงการชกมวย รายละเอียดยังสลับไปกับเรื่องราวของครอบครัวก้าวหน้าพอเหมาะพอควร หนัง the fast 10 อีกทั้งความรัก ความกังวล ของเมีย อย่าง บิอังก้า (รับบทบาทโดย เทสซ่า ทอมป์สัน) คุณนั้นก็พักจากกระบวนการทำสิ่งที่ตนเองรัก รวมทั้งทำอะไรที่ใกล้เคียงกัน เพื่อตนเองนั้นยังคงแฮปปี้กับความพอใจของตน แล้วก็บุตรสาวของเขา โทนี่ ‘ลิตเติ้ล ดุ๊ก’ เบอร์ตัน (รับบทบาทโดย วู้ด แฮร์ริส)
เมื่อคุณนั้นมีเรื่องมีราวการใช้ความร้ายแรงกับเพื่อนพ้องในสถานที่เรียนกลุ่มคนหูหนวก แต่ทว่ากลับไม่มีผลสรุปของรายละเอียดว่าปรารถนาสื่อถึงการต้านทานความร้ายแรง หรือผลการปฏิบัติอะไร แล้วก็ยังจุดหลักสำคัญอีกพอควรที่มีเรื่องมีราวเกิดขึ้น แม้กระนั้นดื้อด้านไปไม่จบทาง เสมอเหมือนพอเพียงไปสู่แกนการชกมวยของสองนักแสดงหลัก รายละเอียดอื่นๆก็ออกจะเบาบางลงไป
แน่ๆว่าถึงแม้ว่าจะเป็นการดูแลคราวแรกของ ไมเคิล บี. จอร์แดน แต่ว่าก็ทำออกมาได้ออกจะดี ในส่วนของมิติการถ่ายทำคงจะจะต้องบอกเลยว่า เขาทำออกได้อย่างดีเยี่ยม เสมือนว่าเขานำประสบการณ์จากครั้งที่แล้วบนเวที มาถ่ายทอดมุมมองของผู้แสดงในระหว่างการชกมวย การจัด
